Samsung
Galaxy S III มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 Ice Cream Sandwich
ใช้หน่วยประมวลผล Quad Core ความเร็ว 1.4 GHz, GPU ARM Mali-400MP, RAM 1GB
หน่วยความจำภายใน 16 GB
หน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส รองรับการใช้งานมัลติทัชสูงสุด 10
จุด
ผลการทดสอบจากโปรแกรม AnTuTu Benchmark ได้ที่ 10396 คะแนน
ผลการทดสอบจากโปรแกรม NeoCore ได้ที่ 59.9 fps
ผลการทดสอบจากโปรแกรม AnTuTu Benchmark ได้ที่ 10396 คะแนน
ผลการทดสอบจากโปรแกรม NeoCore ได้ที่ 59.9 fps
Samsung
Galaxy S III ใช้อินเตอร์เฟส TouchWiz UX ที่มีรูปแบบการแสดงผลสวยงามดูสบายตา
พร้อมลูกเล่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาให้ผู้ใช้งานเข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ
ได้อย่างคล่องตัว และสะดวกมากยิ่งขึ้น รูปแบบการปลดล็อคหน้าจอล็อคสกรีน
ใช้ลักษณะการ Swipe ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็ได้เพื่อปลดล็อคเข้าสู่หน้าหลัก
ซึ่งหากกำหนดให้มีเสียงเมื่อสัมผัสหน้าจอจะมีเสียงของหยดน้ำ
และมีภาพคล้ายน้ำกระเพื่อมขึ้นมาอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการปลดล็อคต่างๆ ให้เลือกใช้ ได้แก่
- Swipe : ปัดบนหน้าจอเพื่อปลดล็อค
- การเคลื่อนไหว : ปลดล็อคหน้าจอด้วยการเคลื่อนไหวโดยการเอียงเครื่อง
- Face Unlock : ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า
- หน้าและเสียง : ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า และเสียง
- รูปแบบ : วาดลายเขียนสำหรับปลดล็อค
- PIN : ปลดล็อคโดยการใส่ PIN
- รหัสผ่าน : ปลดล็อคโดยการใส่รหัสผ่าน
- การเคลื่อนไหว : ปลดล็อคหน้าจอด้วยการเคลื่อนไหวโดยการเอียงเครื่อง
- Face Unlock : ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า
- หน้าและเสียง : ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า และเสียง
- รูปแบบ : วาดลายเขียนสำหรับปลดล็อค
- PIN : ปลดล็อคโดยการใส่ PIN
- รหัสผ่าน : ปลดล็อคโดยการใส่รหัสผ่าน
หน้าล็อคสกรีนมีไอคอนทางลัดจัดวางอยู่ข้างล่าง รวม 4 ไอคอน
เพื่อให้ผู้ใช้งานเปิดแอพพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยๆ ได้ทันที โดยค่าเริ่มต้นมีไอคอนมาให้
ได้แก่ โทร, Chat On, อินเทอร์เน็ต, กล้องถ่ายรูป
เปิดใช้งานโดยแตะที่ไอคอนแล้วปัดไปทางใดทางหนึ่ง และสามารถเปลี่ยนค่าเป็นไอคอนแอพฯ
อื่นได้
นอกจากรูปแบบปลดล็อคที่หลากหลายแล้ว
ในส่วนการแสดงผลที่หน้าล็อคสกรีนยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ
ให้เลือกกำหนดเพิ่มเติมได้อีกด้วย ได้แก่ ทางลัด, ตัววิ่งแสดงข้อมูล, ปลดล็อคกล้อง
(แตะจอค้างไว้แล้วเอียงเครื่องเพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูป), แสดงนาฬิกา,
นาฬิกาคู่, สภาพอากาศ, เอฟเฟ็กต์กระเพื่อม, ข้อความวิธีใช้, การปลุกเพื่อปลดล็อค
(Wake up Command)
หน้าจอหลักมีมาให้รวมทั้งหมด 7 หน้า เปลี่ยนไปหน้าอื่นๆ
โดยเลื่อนหน้าจอไปทางซ้าย/ขวา ซึ่งมีลักษณะหมุนวนไปได้เรื่อยๆ
หรือรวบสองนิ้วบนหน้าจอ เพื่อแสดงภาพรวมของหน้าทั้งหมดขนาดย่อ
ให้แตะเข้าไปหน้าที่ต้องการได้ และสามารถแตะที่รูปบ้านเพื่อกำหนดเป็นหน้าโฮมสกรีน
เลื่อนสลับตำแหน่งหน้าไปมา หรือเพิ่ม/ลบหน้าได้
ปรับแต่งหน้าจอหลักได้โดยสัมผัสหน้าจอค้างไว้สักครู่
เพื่อเรียกหน้าต่างการตั้งค่าขึ้นมา โดยจะมีให้เลือกตั้งค่าวอลล์เปเปอร์
สำหรับหน้าจอหลัก, ล็อคหน้าจอ, หน้าจอหลักและหน้าจอล็อค
ซึ่งรองรับภาพจากวอลล์เปเปอร์ระบบ, วอลล์เปเปอร์แบบเคลื่อนไหว, แกลลอรี่
และเพิ่มไอคอนทางลัดในหน้าจอหลัก ทั้งแอพพลิเคชั่น, แฟ้ม, Widgets
กำหนดลักษณะการแสดงผลบนหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ ปรับค่าทั่วไปของความสว่าง,
Smart stay, หมุนหน้าจออัตโนมัติ, ระยะเวลาของแสงหน้าจอปุ่มสัมผัส, รูปแบบตัวอักษร
(เริ่มต้นมีมาให้ 4 แบบ), ขนาดตัวอักษร (5 ขนาด) โหมดหน้าจอ (Dynamic, มาตรฐาน,
ธรรมชาติ, ภาพยนตร์), ปรับไฟอัตโนมัติ, แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่
ส่วนล่างของหน้าจอหลักในทุกๆ หน้า จะมีแถบแสดงไอคอนทางลัดแอพฯ อยู่
โดยค่าเริ่มต้นมี โทรศัพท์, รายชื่อ, ข้อความ, อินเทอร์เน็ต และแอพพลิเคชั่น
สามารถเปลี่ยนเป็นไอคอนทางลัดอื่นๆ ได้ (ยกเว้นปุ่มแอพพลิเคชั่น)
ส่วนบนสุดของจอแสดงผล นอกจากมีแถบแสดงสถานะต่างๆ ของเครื่องแล้ว
เมื่อแตะส่วนบนแล้วเลื่อนลงมาจะพบหน้าแสดงรายการแจ้งเตือนต่างๆ และทางลัดการตั้งค่า
ได้แก่ Wi-Fi, GPS, เสียง, หน้าจอการหมุน, ประหยัดพลังงาน, การแจ้งเตือน,
ข้อมูลมือถือ, บลูทูธ, โหมดขับรถ, ซิงค์ และเปิดแอพฯ การตั้งค่า
หน้าแอพพลิเคชั่นหลัก แสดงไอคอนแอพฯ ทั้งหมดในรูปแบบตาราง พร้อมแบ่งหน้าแสดง
Widgets และแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดแยกหน้าจากกัน
โดยเลือกกำหนดประเภทการแสดงไอคอนแบบตารางตัวอักษร, รายการตัวอักษร
และตารางที่กำหนดเอง ซึ่งสามารถเลือกแก้ไขตำแหน่ง, ลบการติดตั้ง,
ซ่อนแอพพลิเคชั่นได้
ความสามารถที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ใน Samsung Galaxy S
III ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้ แตกต่างกับสมารทโฟนทั่วๆ ไป
เรียกได้ว่า Samsung ใส่ใจทั้งการออกแบบ และเข้าใจผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด
ตามคอนเซปต์ที่ว่า Designed for humans, inspired by natures
Smart Stay : รับรู้ได้โดยอัตโนมัติ
ซึ่งทำให้หน้าจอจะยังคงสว่างอยู่อย่างต่อเนื่อง
หากผู้ใช้งานยังคงมองมาที่โทรศัพท์อยู่ โดยจะแสดงรูปดวงตาอยู่แถบข้างบน
เมื่อเลยเวลาที่กำหนดให้ปิดแสงหน้าจอแล้ว
และหากละสายตาไปก็จะปิดแสงหน้าจอตามเวลาที่ตั้งไว้
Direct Call : โทรออกอัตโนมัติ เมื่อยกโทรศัพท์มาใกล้ใบหน้า
ในขณะที่เปิดข้อความ, รายละเอียดชื่อผู้ติดต่อ, ประวัติการโทร
ซึ่งโทรศัพท์จะสั่นขึ้นมาครั้งหนึ่งก่อนโทรออกทันที
Smart Alert : การแจ้งเตือนต่างๆ เช่นสายโทรเข้าไม่ได้รับ,
ข้อความเข้า แล้วผู้ใช้ไม่ได้เปิดดู
และเมื่อยกโทรศัพท์ขึ้นมาเครื่องจะสั่นเล็กน้อยแจ้งให้ผู้ใช้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
S Voice : คำสั่งเสียงเปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ
โดยใช้เสียงพูดกับเครื่อง เช่น ปลดล็อคเครื่อง, เปิดกล้องถ่ายรูป, เปิดเพลง,
ปิดเสียงนาฬิกาปลุก เป็นต้น
S Beam :
แบ่งปันไฟล์ข้อมูลภายในเครื่องส่งต่อถึงกันผ่านเทคโนโลยี NFC
ทำให้สามารกส่งข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยแตะหลังเครื่องเข้าหากัน แล้วทำการส่งไฟล์
เช่น ไฟล์เอกสาร, รูปภาพ, วิดีโอ, เพลง หรือแชร์ไฟล์ผ่าน Wi-Fi Direct
จะทำได้สะดวกเช่นเดียวกัน
AllShare Play : แชร์คอนเทนต์บนอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับผ่านทาง
DLNA และ Wi-Fi Direct
Pop up Play :
เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถรับชมวิดีโอที่มีอยู่ในเครื่องได้อย่างต่อเนื่อง
ควบคู่กับการทำงานอย่างอื่นไปด้วย บน Samsung Galaxy S
III โดยจะแสดงวิดีโอหน้าต่างขนาดเล็กไว้ ซึ่งสามารถเลื่อนไปวางตำแหน่งต่างๆ
บนหน้าจอได้ และแตะกลับไปดูวิดีโอขนาดใหญ่ได้
Burst Shot และ Best Photo : สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด
20 ภาพ ในเวลาที่รวดเร็ว และสามารถเลือกรูปถ่ายที่ดีที่สุดจากภาพถ่ายต่อเนื่อง 8
ภาพ (เมื่อเปิดชอทที่ดีที่สุด)
Social Tag : เชื่อมโยงคุณ และเพื่อนๆ ในเครือข่ายสังคมออนไลน์
จากใบหน้าที่แสดงบนรูปภาพในแกลลอรี่ภาพถ่าย โดยเชื่อมโยงจากรายชื่อผู้ติดต่อ,
Facebook, Google+ แสดงชื่อให้เห็น พร้อมให้ติดต่อได้ ทั้งโทร, ส่งข้อความ, e-mail,
เปิดไปที่บัญชีสังคมออนไลน์ในทันที
Buddy Photo Share :
นอกจากจะเชื่อมโยงใบหน้าจากรายชื่อในบัญชีสังคมออนไลน์แล้ว
ยังสามารถแชร์รูปภาพเป็นกลุ่มให้กับเพื่อนทุกๆ คนที่แท็กรายชื่อไว้ ส่งออกทางอีเมล,
ข้อความ MMS ในทันที
การเชื่อมต่อต่างๆ
Samsung Galaxy S III สนับสนุนการเชื่อมต่อหลากหลายแบบ ได้แก่ ช่องต่อ micro USB, หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, Wi-Fi, บลูทูธ, โอนถ่ายข้อมูลผ่าน Wi-Fi Direct, Kies ผ่าน Wi-Fi, NFC, S Beam, Android Beam, DLNA, All share หรือจะใช้เป็น Wi-Fi hotspot
Samsung Galaxy S III สนับสนุนการเชื่อมต่อหลากหลายแบบ ได้แก่ ช่องต่อ micro USB, หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, Wi-Fi, บลูทูธ, โอนถ่ายข้อมูลผ่าน Wi-Fi Direct, Kies ผ่าน Wi-Fi, NFC, S Beam, Android Beam, DLNA, All share หรือจะใช้เป็น Wi-Fi hotspot
การใช้งานอินเทอร์เน็ต
เชื่อมต่อโลกออนไลน์ผ่านเครือข่าย Wi-Fi, 3G, EGDE
เปิดเบราว์เซอร์สำหรับเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ
ซึ่งแสดงผลได้ทั้งมุมมองในแนวตั้ง/แนวนอนอัตโนมัติ
และปรับเปลี่ยนมุมมองแบบเดสก์ท็อป พร้อมย่อ/ขยาย เลื่อนไปดูส่วนต่างๆ
ของหน้าเว็บได้อย่างสะดวก เปิดหน้าเว็บได้หลายหน้าต่างสูงสุด 8 หน้า
เบราว์เซอร์สนับสนุน Flash Player, Java Script เพื่อการท่องเว็บเต็มรูปแบบ
รับชมวิดีโอออนไลน์ เล่นเกมส์ได้โดยตรง เลือกเก็บที่อยู่เว็บโปรดไว้ในบุ๊คมาร์ค
หรือเปิดจากประวัติการใช้งาน ซึ่งสามารถบันทึกเพื่ออ่านแบบออฟไลน์ได้
พร้อมเลือกปรับความสว่างและสี, ขนาดตัวอักษร, แสดงภาพหน้าเว็บแบบกลับสี
เครื่องเล่นเพลง
เครื่องเล่นเพลงหน้าแรกจะแสดงเมนูรายชื่อเพลงพร้อมภาพหน้าปกขนาดย่อ
โดยแบ่งหน้าตามการจัดกลุ่ม อัลบั้ม, ศิลปิน, ประเภท, มิวสิคสแควร์, โฟล์เดอร์,
ผู้แต่ง, ปี และตามรายการเพลงเล่นบ่อยที่สุด, ที่เล่นไม่นานมานี้, ที่เพิ่มเร็วๆ
นี้ หรือเลือกเปิดจากโฟล์เดอร์ที่จัดเก็บไว้ และจากอุปกรณ์ใกล้เคียงโดย DLNA
เพื่อเลือกเล่นไฟล์เพลง
หน้าจอเครื่องเล่นเพลง แสดงภาพปกอัลบั้มขนาดใหญ่ พร้อมปุ่มควบคุมการเล่นเพลง
และฟังก์ชั่นปรับการตั้งค่าต่างๆ มีโหมดเล่นเพลงแบบสุ่ม, วนซ้ำ,
เล่นเป็นพื้นหลังเมื่อออกจากโปรแกรม, แสดงเนื้อเพลง (ถ้ามี) ปรับความเร็วในการเล่น,
ตั้งเวลาปิดเพลงอัตโนมัติ
ให้ความเพลิดเพลิดในการรับเพลงด้วย SoundAlive
ที่สามารถเลือกเอฟเฟ็กต์เสียงได้หลากหลายแบบ ได้แก่ ปกติ, Pop, Rock, Dance, Jazz,
Classic, Voical, Bass boost, Treble boost, Externalization, Cafe, Concert hall,
ผู้ใช้ และ ระบบจำลองเสียง 7.1 Ch
ฟังก์ชั่นมิวสิคสแควร์ ช่วยให้ผู้ใช้รับฟังเพลงตามช่วงอารมณ์เพลงได้
โดยจะจัดกลุ่มเพลงให้เลือกเล่นรายการเพลงที่มีประเภทคล้ายๆ กัน
จากการเลือกช่องสี่เหลี่ยมบนหน้าจอที่จัดเรียงเพลงตามท่วงทำนอง สงบ, สะเทือนอารมณ์,
ตื่นเต้น และสนุกสนาน
เครื่องเล่นวิดีโอ
หน้าแรกของเครื่องเล่นวิดีโอ จะแบ่งหน้าแสดงภาพวิีดีโอขนาดย่อเป็นภาพเคลื่อนไหว
จัดเรียงในรูปแบบตาราง, แบบรายการ, โฟล์เดอร์ที่จัดเก็บไว้ ให้เลือกเข้าไปรับชม
โดยจะแสดงภาพวิดีโอไ้ด้ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอนอัตโนมัติตามการวางตัวเครื่อง
มีฟังก์ชั่นปรับความสว่างวิดีโอ, เล่นต่อเนื่องอัตโนมัติ, ปรับความเร็วในการเล่น
แสดงคำบรรยาย, ปรับโทนสี, ปรับแสงเพื่อการมองเห็นกลางแจ้ง,
และรับฟังด้วยระบบแต่งเสียง SoundAlive
อีกหนึ่งจุดเด่นที่มีมากับเครื่องเล่นวิดีโอ
เพื่อให้ผู้ใช้รับชมวิดีโอแบบต่อเนื่อง ในขณะที่เปิดแอพพลิเคชั่นอื่นๆ
พร้อมกันไปด้วย Pop up Play แสดงวิดีโอเป็นหน้าต่างขนาดเล็กไว้ และมีโหมด Chapter
Preview แสดงภาพวิดีโอเป็นตอนๆ ให้แตะเข้าไปรับชมในฉากที่ต้องการได้
โปรแกรมเล่นวิีดีโอมาพร้อมเครื่องมือตัดแต่งวิดีโอในตัว
เพื่อให้ผู้ใช้ตัิดวิีดีโอในช่วงที่ต้องการได้อย่างสะดวก
วิทยุ FM
รับฟังวิทยุ FM โดยใช้หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเป็นตัวรับสัญญาณ เครื่องเล่นวิทยุ
FM รองรับ RDS มีระบบค้นหาสัญญาณวิทยุ และบันทึกช่องอัตโนมัติ
สามารถบันทึกเสียงวิทยุในขณะที่รับฟัง และสามารถตั้งเวลาปิดวิทยุอัตโนมัติได้
อัลบั้มรูปภาพ
อัลบั้มแสดงรูปภาพ และไฟล์วิีดีโอ โดยจะแบ่งตามแฟ้มที่จัดเก็บไว้
มีโหมดเล่นไฟล์รูปภาพแแบบสไลด์โชว์ พร้อมฟังก์ชั่นเสริมเพิ่มเอฟเฟ็กต์, เพลง,
ปรับความเร็วได้ หากเปิดดูรูปภาพแบบธรรมดาจะแสดงภาพขนาดใหญ่ พร้อมรูปอื่นๆ
ที่เหลือขนาดเล็กตรงด้านล่างให้เลือกแตะข้ามไปดู
หรือเลื่อนไปทางหน้าจอไปทางซ้าย/ขวา เปลี่ยนไปดูรูปถัดไป โดยแสดงรูปภาพแนวนอนและ
แนวตั้งอัตโนมัติตามการวางเครื่อง ให้ย่อ/ขยาย เลื่อนไปดูส่วนต่างๆ ได้สะดวก
สามารถกำหนดรูปภาพให้แสดงแท็กใบหน้าของเืพื่อนๆ ในบัญชีสังคมออนไลน์
พร้อมทั้งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการติดต่อแต่ละบุคคลได้อย่างสะดวก เช่น โทร,
ส่งข้อความ, e-mail, เปิดไปที่บัญชีสังคมออนไลน์ในทันที
หรือส่งต่อผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น Wi-Fi Direct, Dropbox, บลูทูธ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น